สิงคโปร์ การศึกษา
สิงคโปร์ การศึกษา – จุดมุ่งหมายทางการศึกษาในระบบโรงเรียนของสิงคโปร์ เพื่อพัฒนาเยาวชนให้มีทักษะความรู้ความสามารถเพื่อการดำรงชีพ มีคุณธรรมจริยธรรม มีความรับผิดชอบและเป็นพลเมืองดี ของชาติ กระบวนการพัฒนาการศึกษามุ่งให้เด็กแต่ละคนสามารถพัฒนาศักยภาพให้ได้สูงสุด การศึกษาของสิงคโปร์ กำหนดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 10 ปี เป็นการศึกษาภาคบังคับ เพื่อให้เด็กทุกคนต้องอยู่ในระบบโรงเรียนอย่างต่ำ 10 ปี ก่อนออกไปสู่การทำงาน กล่าวคือ ประถมศึกษา 6 ปี และมัธยมศึกษา 4 ปี โดยเด็กต้องเข้าเรียนเมื่ออายุ 6 ปี ผู้ที่จะเข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยจะต้องศึกษาขั้นเตรียมมหาวิทยาลัย อีก 2 ปี การศึกษาภาคบังคับของสิงคโปร์จะต้องเรียนรู้ 2 ภาษาควบคู่กันไป ได้แก่ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก และเลือกเรียนภาษาแม่ (Mother Tongue) อีก 1 ภาษา คือ จีน (แมนดาริน) มาเลย์ หรือทมิฬ (อินเดีย)
- ก่อนประถมศึกษา หรือการศึกษาก่อนวัยเรียน ไม่เป็นการศึกษาภาคบังคับ แต่โดยทั่วไปผู้ปกครองได้ให้เด็กเข้ารับการศึกษาระดับนี้เพื่อเตรียมความพร้อม 1-3 ปี หรือ “Foundation Stage”
- ประถมศึกษา แบ่งออกเป็นประถมศึกษาตอนต้น 4 ปี (ประถม 1-4) และประถมศึกษาตอนปลาย 2 ปี (ประถม 5-6) หรือ “Orientation Stage” ชั้นประถมต้นจะเรียน 3 วิชาหลัก คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาแม่ และคณิตศาสตร์ นอกจากนั้น จะมีวิชาดนตรี ศิลปหัตถกรรม หน้าที่พลเมือง สุขศึกษา สังคม และพลศึกษา แต่ในช่วงประถมปลาย นักเรียนจะถูกแยกออกเป็น 3 กลุ่มทางภาษา คือ EM 1. EM 2. และ EM 3. การแยกนักเรียนเข้ากลุ่มทางภาษานั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถทางภาษาของแต่ละคน เมื่อจบประถมศึกษาตอนปลายแล้วเด็กทุกคนจะต้องผ่านการทดสอบระดับชาติ เรียกว่า PSLE (Primary School Leaving Examination) เพื่อศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาในสาขาต่างๆ ตามความสามารถและความถนัด
- มัธยมศึกษา แบ่งออกเป็น 3 หลักสูตร ใช้เวลาเรียน 4-5 ปี ตามความสามารถและความสำเร็จ หลักสูตรในระดับมัธยมศึกษา ได้แก่
3.1 หลักสูตรพิเศษ (Special Course)
3.2 หลักสูตรเร่งรัด (Express Course)
3.3 หลักสูตรปกติ (Normal Course)
การศึกษา หลังมัธยมศึกษา (Post Secondary Education)
- Junior Colleges/Centralized Institutes นักเรียนที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาแล้วจะต้องสอบ GCE “O” level เพื่อเข้า “Junior Colleges” หลังสูตร 2 ปี ซึ่งเป็นหลักสูตรการศึกษาก่อนเข้ามหาวิทยาลัย (pre-university) หรือ Centralized Institutes หลักสูตร 3 ปี ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย การเข้ารับการศึกษาขึ้นอยู่กับคะแนนผลการสอบ GCE “O” level โดยหลักสูตรพิเศษ และหลักสูตรเร่งรัดจะต้องผ่านประกาศนียบัตร GCB (General Certificate of Education) ในระดับ “O” Level ส่วนหลักสูตรปกติจะต้องผ่าน GCB “N” Level แต่ถ้าต้องศึกษาต่อในระดับเตรียมอุดมศึกษา ก็ต้องสอบให้ผ่าน GCB “O” Level เช่นเดียวกัน เมื่อจบแล้วจะต้องสอบ GCE “A” Level เพื่อนำผลคะแนนไปตัดสินการเข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย
- Institute of Technical Education: ITE จัดฝึกอบรมการศึกษาทางเทคนิคและอาชีวศึกษาให้แก่ผู้สำเร็จมัธยมศึกษา เพื่อเตรียมตัวสำหรับทำงาน รวมทั้งจัดฝึกอบรมให้แก่ผู้ที่ทำงานแล้ว เพื่อพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานที่สนองตอบความต้องการด้านอุตสาหกรรม
- Polytechnics เป็นการจัดการศึกษาเพื่อผลิตกำลังคนด้านวิศวกรรมศาสตร์ บริหารธุรกิจการเงินการบัญชี การเดินเรือ พยาบาล เทคโนโลยีชีวภาพ วิทยาศาสตร์ประยุกต์ การออกแบบผลิตภัณฑ์ ฯลฯ วิทยาลัยเทคนิค ของสิงคโปร์มี 4 แห่งได้แก่
3.1. Singapore Polytechnic
3.2. Ngee Ann Polytechnic
3.3. Temasek Polytechnic และ
3.4. Nanyang Polytechnic
- มหาวิทยาลัย (Universities) สิงคโปร์มีมหาวิทยาลัย 3 แห่ง คือ
4.1. มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore :NUS) จะให้การศึกษาครอบคลุมเกือบทุกสาขาวิชา ทั้งแพทยศาสตร์ ทันตแพทย์ กฎหมาย ศิลปะศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม และการบริหารธุรกิจ
4.2. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง (Nanyang Technological University : NTU) จะเน้นการศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์สาขาต่างๆ รวมทั้งวิทยาศาสตร์ประยุกต์ และสาขาธุรกิจ และการบัญชี
4.3. มหาวิทยาลัยการจัดการแห่งสิงคโปร์ (Singapore Management University:SMU) จะเน้นเรื่องธุรกิจการจัดการ
การศึกษาของประเทศสิงคโปร์อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ ที่นอกจากจะดูแลสถาบันการศึกษาของรัฐแล้ว ยังมีหน้าที่ให้คำปรึกษา และดูแลโรงเรียนเอกชนในสิงคโปร์
เหตุผลที่ทำให้ประเทศสิงคโปร์มีการศึกษาที่เต็มไปด้วยคุณภาพอันดับต้นๆ ของโลก จนติดอันดับ 1 ของการจัดอันดับโรงเรียนม.ปลายที่ดีที่สุดในโลก
1.การวางโครงสร้างของระบบการศึกษาที่ดี
การศึกษาขั้นพื้นฐานของสิงคโปร์นั้นใช้ระบบอังกฤษคือ Primary (6 ปี) > Secondary (4 ปี) >A Level >O Level การศึกษาภาคบังคับของสิงคโปร์คือ ถึงชั้น Primary 6 (เทียบเท่าชั้น ป. 6)
2.มีจุดเด่นได้แก่การเรียนสองภาษา
กล่าวคือในหลักสูตรการศึกษาในระดับประถม และมัธยมศึกษานั้นจะมีกำหนดให้เด็กนักเรียนศึกษาภาษาอังกฤษ และภาษาทางการของสิงคโปร์อีกหนึ่งภาษา (จีน มาเลย์ หรือทมิฬ)
3.มีการปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนให้นักเรียนได้เรียนเป็นภาษาอังกฤษ
ที่ประเทศสิงคโปร์มีการปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนให้นักเรียนได้เรียนเป็นภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ระดับประถมตอนปลาย เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษให้กับนักเรียน
4.รัฐให้ความช่วยเหลือเด็กนักเรียนจากครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ
- ค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือเรียน ค่าชุดนักเรียน ฟรี สำหรับโรงเรียนของรัฐ ให้แก่:
-เด็กนักเรียนในครอบครัวที่มีเด็ก 1-2 คน และมีรายได้รวมไม่เกิน $1,500 ต่อเดือน
-เด็กนักเรียนในครอบครัวที่มีเด็ก 3 คนหรือมากกว่า และมีรายได้รวมไม่เกิน $1,800 ต่อเดือน
- ให้เงินอุดหนุนสำหรับเด็กนักเรียนจากครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ และปานกลาง ที่ศึกษาใน โรงเรียนมัธยมอิสระต่างๆ (ปริมาณของเงินอุดหนุนขึ้นอยู่กับฐานรายได้ของครอบครัว)
5.รัฐสนับสนุนหลักสูตร Special Education Schools
ในแต่ละปี รัฐบาลสิงคโปร์จะจัดสรรงบประมาณประมาณ 2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์เพื่อจัดทำหลักสูตร และสถาบันการศึกษาในลักษณะ Special Education Schools สำหรับเด็ก และเยาวชนสิงคโปร์เพื่อการสร้างโอกาสด้านการศึกษาที่เท่าเทียมกัน
6.หลักสูตรการเรียนในระดับประถมและมัธยมศึกษาของสิงคโปร์เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
ปัจจุบันสิงคโปร์มีอิทธิพลด้านการศึกษาในระดับโลก เนื่องจากปัจจุบัน โรงเรียนต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา ไทย อินโดนีเซีย ฮ่องกง อินเดีย และบางประเทศในแอฟริกา เลือกใช้หนังสือเรียน และหลักสูตรการเรียนของสิงคโปร์ในระดับประถม และมัธยมศึกษา โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์
ซึ่งล่าสุดรัฐมนตรีว่าการศึกษาสิงคโปร์ได้ลงนามในบันทึกความตกลงร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อต่อยอดความร่วมมือในด้านการศึกษา ซึ่งทั้งสองประเทศมีความร่วมมือระหว่างกัน
สำหรับผู้ที่รู้จัก ufabet.win ผ่านทาง google รับโปรพิเศษใหม่ๆได้เลย สามารถสอบถามไปยังไลน์ที่ขึ้นอยู่หน้าเว็บ แล้วคุณจะได้คำปรึกษาและคำแนะนำกับทางระบบอย่างละเอียด สมัครได้แล้วง่ายๆ เพียงแค่กดสมัครเข้าไลน์แอด ง่ายๆเพียงกดไลน์แอด ก็เข้าเป็นสมาชิกได้แล้ว
วิธีการสมัคร
สามารถสมัครได้สามช่องทาง ตลอด 24 ชม.
ผ่านทาง Callcenter 099-456-6166
ผ่านทาง line id : @WIN666
สมัครผ่านเว็บหลัก sagame1688